Passive income

Passive income

        Passive income หรือรายได้เชิงรับ เป็นรายได้ที่จะทำให้เรามีอิสรภาพในชีวิต มีอิสรภาพทางการเงิน แต่การได้มาซึ่ง Passive income นั้นก็ไม่ได้ง่ายๆเช่นกัน ในบทความนี้เราจะมาดูกันว่า รายได้จาก Passive income นั้น สามารถมาได้จากแหล่งใดบ้าง

       ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดเลยก็คือบ้านเช่าหรือห้องเช่า แต่การจะมีบ้านเช่าหรือห้องเช่าเป็นของตัวเองก็ต้องแลกมาด้วยต้นทุนในการลงทุนที่สูง เช่น ถ้าสมมุติผมได้ซื้อบ้านเช่ามาในราคา 1 ล้านบาท ผมปล่อยเช่าเดือนละ 8,000 บาท ผมจะต้องใช้เวลา 125-130  เดือน หรือประมาณ 10-11 ปีในการคืนทุน

      แต่ก็มีนักลงทุนบางคนที่มีความรู้เรื่องการเงินมากๆ ได้ใช้ความรู้ในการให้มันผ่อนตัวมันเอง เช่น 

Mister Robert Kiyosaki จากหนังสือพ่อรวยสอนลูก ที่นำหลักการนี้มาประยุกต์ใช้

      กล่าวคือ ถ้าบ้านเช่าราคา 1 ล้านบาท ผมดาวน์บ้านเช่าในราคา 200,000 บาท แล้วผมผ่อนต่ออีก 800,000 บาท ผมเสื้อดอกเบี้ยจากการกูยืมเงิน 800,000 บาทในอัตรา 7% คิดเป็น 56000 บาท และผมได้ปล่อยเช่าเดือนละ 8000 บาท ใน 1 ปีผมจะได้ 96,000 บาท หักลบค่าภาษีแล้ว ผมจะเหลือ 40,000 บาท

ผมจะใช้เวลาแค่ 5-6 ปีในการได้เงินดาวน์ผมคืน และผมสามารถขายห้องต่อได้เลย แต่ถ้าผมขายผมก็ต้องนำเงินไปใช้หนี้ 800,000 บาทที่เหลือ  ซึ่งไม่ต่างจากซื้อเงินสด เอ๊ะ! แล้วเราจะไปกู้ทำไมหละ

      แต่อย่าลืมว่า ถ้าผมซื้อโดยใช้วิธีแรก ผมจะนำไปลดหย่อนภาษีไม่ได้ แต่แบบที่สองผมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ เพราะมีภาระที่ต้องผ่อนบ้าน และผมยังได้เงินดาวน์ที่สามารถนำไปลงทุนในรูปแบบอื่นได้อีก นี้หละครับข้อแตกต่างของมัน

    

       Passive income is income that will give us the freedom of life. The Acquisition of Passive income is not easy as well. In this article we will look at the income Passive income can come from any source.

       The most obvious example, it is a rented house or apartment. But the house or apartment of their own comes with a cost of capital is high, as if let's say I have bought houses in the price of 1 million, but the month's rent of 8,000 baht will be spent. 125-130 a month, or about 10-11 years to payback.
      But there are some investors who have knowledge of financial matters, too. Have used the knowledge to make it pay for itself. Mister Robert Kiyosaki of Rich Dad Poor Dad books. The application of this principle.
      That is, if the rental price of 1 million, was down house price 200,000 baht, and I pay for another 800,000 baht hair shirt of interest on loans borrowed money 800,000 Baht in the rate of 7%  or is a 56,000 baht, and I leave for a month. In 8000, I will get 96,000 baht a year to offset taxes, and I will have 40,000 Baht It will take 5-6 years to get it down my back. And I was able to get this apartment. But if I sell, I need the money to repay the debt, which does not differ from the remaining 800,000 baht in cash to buy eh! Why we must to borrow if it is not different from first way?.
      But do not forget that. If I use the first method. I would not be tax deductible. But the second I was able to tax it. I had a mortgage. I was down and that can be invested in another form. This is it difference.